ความจำเป็นในการก้าวสู่โลกดิจิทัลของหลากธุรกิจมีมากขึ้น จุดนี้เอง LINE ประเทศไทย จึงพัฒนาแพลตฟอร์มแห่งอนาคตสำหรับทุกธุรกิจ เพื่อเป็นส่วนช่วยให้องค์กรไทยก้าวสู่โลกดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ LINE ประเทศไทย
ฝ่าฟันวิกฤต และพร้อมเติบโตด้วยดิจิทัล
นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ LINE ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้หลายธุรกิจเริ่มใช้ดิจิทัลยกระดับการทำตลาดมาส่วนหนึ่งแล้ว แต่การระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ทุกอย่างต้องไปดิจิทัลเร็วขึ้น เพื่อผ่านพ้นวิกฤตนี้ และพร้อมสร้างโอกาสการเติบโตให้กับธุรกิจในอนาคตได้
“เรามองว่าการทำธุรกิจแบบ Decentralization ที่ให้ความสำคัญกับภาคส่วนย่อยมากขึ้น สามารถสอดรับการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันนี้ได้เป็นอย่างดี ควบคู่กับเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในปัจจุบัน ทำให้แต่ละภาคธุรกิจต้องนิยามการเติบโตในธุรกิจใหม่เพื่อความอยู่รอดและก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอีกครั้งหลังวิกฤต”
สำหรับทิศทางการใช้ดิจิทัลมายกระดับธุรกิจแบบ Decentralization ประกอบด้วย
- New Human หรือเข้าใจพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภค เช่นการรับชมซีรีส์วายจนเป็นกระแส และสร้าง Y-Economy ขึ้นมาได้ โดย LINE มีแพลตฟอร์ม LINE TV ที่มีผู้ชมซีรีส์วายกว่า 20 ล้านคน
- New Rule หรือการใช้บรรทัดฐนใหม่ในการทำธุรกิจ เช่นการเก็บข้อมูลที่องค์กรต่างๆ ควรเก็บข้อมูลจากลูกค้าโดยไม่ผ่านคนกลาง หรือ First-party Data ซึ่ง LINE มีแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ช่วยเหลือองค์กรในการเก็บข้อมูล
- New Power หรือการมองกลุ่มผู้ซื้อใหม่ โดยครั้งนี้ต้องเล็งเห็นพื้นที่เอเชีย เช่นประเทศไทยขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกในด้านการซื้อสินค้าผ่าน Chat Commerce ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่ง LINE มีบริการ MyShop ช่วยเรื่องนี้
นอกจากนี้ LINE ยังมีเครื่องมืออื่นๆ เพื่อตอบโจทย์กลยุทธ์ Decentralization อาทิ MyRestaurant เพื่อช่วยเหลือธุรกิจร้านอาหาร, Event Stickers สติกเกอร์รูปแบบใหม่ที่กำหนดยอดดาวน์โหลดได้เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย และ LINE OA Store แหล่งรวมเครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ LINE OA
Continue lendo em https://brandinside.asia/line-thailand-business/